ไตเสื่อม ระยะ 4-5 ไตวายระยะสุดท้าย

ไตเสื่อมเรื้อรังระยะสุดท้าย

ไตเสื่อมเรื้อรังมีทั้งหมด 5 ระยะด้วยกัน

ผู้ป่วยโรคไตเสื่อมเรื้อรัง ระยะ 1-3
อาจจะยังไม่แสดงอาการภายนอกรุนแรงมาก

แต่อาจจะตรวจพบเลือดเริ่มจางบ้าง
ปัสสาวะเป็นฟอง ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อย
หน้าบวม ขาบวม นิ้วบวมบางวันแล้วหาย
ทั้งนี้จะทราบได้จากค่าเลือดที่ตรวจมาค่ะ

ปรับอาหารและทานสารอาหาร UMI HRT
เพื่อฟื้นฟูระบบไต ไขมัน ให้ทำงานได้ดีขึ้นได้

ผู้ป่วยโรคไตเสื่อมเรื้อรัง ระยะ 4-5

ส่วนมากมักจะมีอาการภายนอกร่วมด้วย ตัวบวม คัน
หายใจไม่เต็มปอด หัวใจโต เหนื่อยง่าย ไม่อยากทานข้าว
ไม่มีแรงแม้แต่นั่งหรือเดินจนนอนติดเตียง

อาการเหล่านี้เป็นอาการที่ผู้ป่วยไตเสื่อมเรื้อรังระยะ 4-5
จะต้องเจอ ส่วนเจอเร็วหรือช้านั้นขึ้นกับ เพศ อายุ การใช้ชีวิต
การทำงาน ความแข็งแรงของร่างกายก่อนหน้าที่จะป่วยเป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรัง

ไตเสื่อมเรื้อรังระยะสุดท้ายนี้
คุณหมอมักจะพูดคุยเรื่องการฟอกไต หรือ การล้างไตผ่านช่องท้อง
ซึ่งแล้วแต่สิทธิ์การรักษาของผู้ป่วยเอง

สิ่งที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่
จะไม่อยากได้ยิน และ กลัว
คือ ไม่อยากฟอกไต

ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ขั้นตอนนี้
ใช้เวลาอีกหลายเดือนเลยนะคะ เรายังพอมีเวลา
ที่จะทำให้ค่าไตเสื่อมดีขึ้นได้แน่นอน
แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายและมันก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้

คนป่วยเอง ผู้ดูแลเอง ต้องร่วมด้วยช่วยกันอย่างมากเลยทีเดียว
รวมถึงการได้รับสารอาหารเพื่อฟื้นฟูทั้งระบบ
ไต หัวใจ หลอดเลือด อย่างเพียงพอและทันเวลา

เรื่องที่ต้องรู้ ภาพรวมของการเตรียมตัว
เมื่อ คุณหมอบอกว่า ต้องฟอกไต

หมอบอกต้องฟอกไต

เชื่อว่า พอใครได้ฟัง ทุกคนจะตกใจ
เพราะเคยได้ยินกันมาว่าฟอกแล้วชีวิตจะสั้น
ทรมานนั่นอาจจะจริง ในกรณีที่ผู้ป่วยที่ฟอกไตแล้ว
ไม่ดูแลร่างกายตัวเอง ยังคงทานอาหารตามใจ
ทำให้เส้นที่ทำไว้มีปัญหา หรือ การฟอกมีประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่

แต่สำหรับคนที่ดูแลตัวเองดีเชื่อไหมค่ะ ?
อยู่ได้นานหลายสิบปี หน้าตาสดใส สุขภาพแข็งแรง ก็มี

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า
ทำไมถึงต้อง ฟอกไต ฟอกเลือด ล้างหน้าท้อง
เพราะเราปล่อยไตให้เสื่อมหนักจนร่างกายเอาไม่อยู่
สิ่งที่เสี่ยงมากที่สุดคือ น้ำท่วมปอด
จนต้องพาเข้าห้อง ICU ในสภาวะที่ผู้ป่วยอ่อนแอ
โอกาสที่คนป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดจึงมีสูง
ส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ หากปล่อยในสภาพแบบนี้

ไตเสื่อม ระยะสุดท้าย
เหนื่อยง่าย บวม หัวใจโต เสี่ยง น้ำท่วมปอด
สาเหตุมาจากอะไร คุณริน อธิบายเข้าใจง่าย

การฟอกสำหรับผู้ที่เป็นไตระยะสุดท้าย ที่คุณหมอจะต้องช่วยผู้ป่วยก่อน
คือการนำของเสียออกจากร่างกายผู้ป่วยให้เร็วที่สุด
นั่นคือ การฟอกฉุกเฉิน เช่น ฟอกที่คอ ฟอกที่ต้นขา ฟอกที่หน้าอก
ฟอกแบบนี้จะทำอยู่ กี่เดือน แล้วแต่เคสที่คุณหมอประเมิน
การฟอกแบบนี้ ถ้าค่าเลือดของผู้ป่วยดีขึ้น
สามารถที่จะ ไม่ต้องฟอกตลอดชีวิต ได้

แต่ส่วนมากเมื่อคนป่วยต้องเดินทางมาถึงจุดที่ฟอกฉุกเฉินแล้ว
คุณหมอจะคุยเรื่องการทำเส้นฟอกไตถาวรที่บริเวณแขน
ร่วมด้วยในระหว่างที่ทำการฟอกฉุกเฉิน
เนื่องจาก น้อยมากที่จะสามารถฟื้นตัวเองได้จากโรคไตในระยะดังกล่าว

การทำเส้นฟอกไตถาวรนั้น ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ
ถ้าร่างกายของคนป่วยไม่สมบูรณ์พร้อมรับการผ่าตัด
บางครั้งรับการผ่าตัดได้ แต่เส้นไม่โต ตามเวลาที่ควรเป็น
นั่นก็หมายความว่า เส้นใช้งานไม่ได้
คุณหมอจะต้องทำการหาวิธีทางที่จะต้องทำการทำเส้นให้ได้
ซึ่งนั่นการเจ็บปวดของคนป่วยครั้งแล้วครั้งเล่า

สิ่งที่ญาติและคนป่วยทำได้คือการเตรียมตัวให้พร้อมเรื่องสุขภาพ
ค่าเลือดในทุกระยะ เพื่อช่วยให้คุณหมอทำการรักษาให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

เคสตัวอย่าง ค่า Cr GFR Bun ดีขึ้น
ทาน UMI HRT ไตเสื่อม CKD ระยะสุดท้าย

ไตเสื่อมระยะ 5 เป็นความดันลงไต ผู้ป่วยเหนื่อยมาก
เคสนี้จึงแนะนำให้ทาน UMI + HRT เช้า เย็น คู่กัน
ทานต่อเนื่อง ค่าไตเพิ่มขึ้นทุกครั้ง

หากท่านอยู่ในช่วงที่หมอประเมินมาแล้วว่า
จะต้องวางเส้นเพื่อ ฟอกไตเทียม ฟอกไตทางเส้นเลือด

ยังมีเวลาอีก 3-6 เดือนในการเตรียมตัวให้พร้อม
ในระหว่างนี้เราต้องควบคุม โรคข้างเคียง และเตรียมความพร้อม
สำหรับเอื้อต่อการวางเส้นเพื่อไม่ให้การวางเส้นมีปัญหา

ในระหว่างนี้หากผู้ป่วยมีอาการน้ำท่วมปอด ตัวบวม แขนขาบวม
คุณหมออาจจะให้ฟอกฉุกเฉิน หรือ ฟอกแบบชั่วคราวก่อน
ส่วนมากที่พบคือ การฟอกที่คอ หรือ ฟอกที่หน้าอก

การฟอกไตแบบชั่วคราวหรือฉุกเฉินนี้ ไม่ต้องฟอกตลอดชีวิตค่ะ
แต่ก็ต้องดูแลควบคุมเช่นเดียวกับการฟอกไตที่เส้น

ในช่วงเตรียมตัวหรือฟอกไตชั่วคราวอยู่ เพื่อรอการผ่าตัดวางเส้นที่แขนนั้น

ช่วงนี้หากคุณลูกค้ามีโอกาส
ได้ทาน UMI 3 ซอง + HRT 1 ซอง ต่อวัน
เพื่อฟื้นฟูได้นะคะ ช่วยอะไรได้บ้าง?

ถ้าดูแลโภชนการอาหารควบคู่ด้วย ถ้าโชคดี ค่าเลือดดีขึ้น
ลูกค้า อาจไม่ต้องวางเส้นได้คะ เหมือนบางเคสที่เคยพบมา
(ทั้งนี้ขึ้นกับเพศ / อายุ / ความเสื่อมภายใน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่เฉพาะบุคคล)
ถ้าทานแล้ว จำเป็นว่าต้องไปผ่าตัดวางเส้นขบวนการวางเส้นจะไม่ทรมานมาก เพราะเราเตรียมความพร้อมร่างกายเราแล้ว

ขบวนการผ่าวางเส้นจะง่ายขึ้น การฟื้นตัว ความเจ็บปวด
จะดีกว่าคนที่ไม่เตรียมความพร้อมคะ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม ก่อนวันหมอนัด
เพื่อผ่าตัดวางเส้น งดทาน umi 7-10 วันนะคะ
(UMI ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี
โดยปกติทุกการผ่าตัดทางเราให้งดทุกกรณีคะ )

ส่วน HRT ทานได้ปกติจนถึงวันผ่าคะ HRT ช่วยปรับสมดุลความดัน
และ การเต้นของหัวใจ ให้ดีขึ้นคะ
หลังจากทำการผ่าตัดวางเส้นเสร็จ
-ทาน HRT ได้เลยคะ
-หลังผ่า 7-14 วันขึ้นไป ถึงจะเริ่มทาน UMI ได้ตามปกติ
เพื่อฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนต่างๆให้ดีขึ้น
ป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือด การโตของเส้น
ก็จะส่งผลในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ข้อแนะนำเพิ่มเติม การดูแลโภชนาการ และ
สารอาหารบำบัด UMI , HRT ควรดูแลเหมือนเดิม
เพื่อทำให้ความเสื่อมของไตคงที่ และการฟอกไตแต่ละครั้งมีประสิทธิภาพสูงสุด

คุณลูกค้าจะเป็นคนป่วยโรคไตที่สุขภาพแข็งแรงกว่า
คนที่เป็นโรคเดียวกันหรือคนปกติบางคนด้วยซ้ำคะ

คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไตเสื่อมเรื้อรังจะดีขึ้นใช้ชีวิตได้เป็นปกติสุข
แข็งแรงขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ป่วยไตเสื่อม ที่ไม่ได้รับการดูแลด้วยสารอาหารนี้

รู้หรือไม่? เมื่อถูก “ฟอกไต”
ต้องฟอกตลอดชีวิต!

แพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นคนบอกท่านเองว่า
ท่านควรได้รับการฟอกเลือดเมื่อใด?
โดยมีปัจจัยหลายอย่าง เป็นตัวนำมาพิจารณา เช่น

สุขภาพโดยรวมของท่าน
การทำงานของไต (ซึ่งสามารถตรวจสอบจากการตรวจเลือด
ดูระดับ creatinine และการตรวจปัสสาวะ)
อาการที่ส่งผลแสดง
คุณภาพชีวิตของคุณ (quality of life)
ความต้องการของคุณ

ท่านจำเป็นต้องได้รับการฟอกเลือด ฟอกไต ล้างไต เมื่อ…..

“ไต” ของท่านทำงานได้เพียง 10 – 15 %
ของการ ทำงานทั้งหมดที่ไตสามารถทำงานได้ตามปกติ

ผู้หญิง ค่าไต (eGFR) ต่ำกว่า 20
ผู้ชาย ค่าไต (eGFR) ต่ำกว่า 15

(ผู้หญิง กับ ผู้ชายคุณหมออาจะจะใช้เกณฑ์ไม่เท่ากัน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพคนป่วยร่วมด้วย
ในผู้ชายร่างกายจะแข็งแรงและมีความทนทานมากกว่าผู้หญิง
จึงมีการอนุโลมค่าไต มากกว่า ผู้หญิง )

แต่ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพความแข็งแรงของสุขภาพผู้ป่วยร่วมด้วย
วัดได้จาก ค่า eGFR และ CR
โดยที่คุณไม่จำเป็นจะต้องมีอาการ
หรืออาการแสดงของไตวาย (kidney failure)
เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน บวม หรือเกิดอาการเหนื่อยเพลีย

การฟอกเลือด (hemodialysis) จะทำหน้าที่แทนการทำงานของไต
เช่น การควบคุม ความดันโลหิต, รักษาความสมดุลของน้ำ
และสารเกลือแร่ต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ระดับ potassium , sodium และ phosphorus
นอกจากนั้น เครื่องฟอกเลือด (hemodialysis) ยังรักษาความสมดุลของ “กรด-ด่าง”ในร่างกาย
ของท่านอีกด้วย แต่ท่านคง ไม่อยากฟอกไต ใช่ไหมค่ะ ?